เป้าหมายแรก มาติป เปิดใจถึงความพิเศษในเกมนัดชิงฯยูซีแอล ระหว่าง ลิเวอร์พูลวีเอสมาดริด

เป้าหมายแรก โจเอล มาติป กองหลังจอมบุกของลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์ปลุกใจเพื่อนร่วมทัพหงส์แดง ก่อนลงสนามทำศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศกับเรอัล มาดริดในค่ำคืนนี้

“เรอัลมาดริดเป็นทีมที่เล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจมาก แถมพวกเขายังขึ้นชื่อเรื่องการพลิกสถานการณ์กลับมาจากความตายอีกด้วย สมมติว่าถ้าเรายิงนำไปก่อน ไม่ว่าจะห่างแค่ไหนก็ตาม พวกเขาสามารถเอาคืนได้ทั้งหมดแน่นอน” เจ๊ติ๊ป กล่าวกับลิเวอร์พูล เอคโค่

“เราจะต้องมีสมาธิอยู่กับเกมตลอดทั้ง 90 หรือ 120 นาที ห้ามว่อกแว่ก ห้ามลนลาน ห้ามเหม่อ และจงเชื่อมั่นเสมอว่าต่อให้คู่แข่งเหนือกว่าทุกด้าน ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะเราเตรียมตัวมาพร้อมสุด ๆ เช่นกัน”

“เท่าที่ผมวิเคราะห์มาอย่างหนัก ก็พบว่า มาดริด ชุดนี้แทบไม่มีจุดอ่อนเลย พวกเขาคือหนึ่งในทีมที่ดีสุดของยุโรป แถมตัวทีเด็ดอย่าง คาริม เบนเซมา ก็ยิงประตูได้จากทุกรูปแบบอีกด้วย” https://SoccerLiveHD.com

เป้าหมายแรก

“การได้เล่นเกมนัดชิงฯ บ่อย ๆ ไม่ว่าจะบอลถ้วยระดับใดก็ตาม มันคือประสบการณ์ล้ำค่าที่สามารถต่อยอดได้จริง เรารู้แล้วว่าสถานการณ์แบบไหนต้องปรับตัว-ปรับใจอย่างไร แต่ห้ามลืมเด็ดขาดว่าการเจอ มาดริด มันคือจุดที่โหดกว่าเดิมหลายเท่า”

“ทุกคนในทีมลิเวอร์พูล รู้ดีกว่าเกมนัดชิงฯ ยูซีแอลมันพิเศษกว่าปกติจนเทียบกันไม่ติด แต่เราก็จะพยายามเตรียมความพร้อมในแบบที่ทำมาตลอดทั้งฤดูกาล ที่เหลือคือลงไปเล่นให้เต็มที่และต้องสนุกสนานกับฟุตบอลเหมือนเดิมด้วย นั่นคือสิ่งสำคัญสุด”

อาร์โนลด์ เผย พร้อมแค่ไหนกับการดวล วินิซิอุส ในเกมนัดชิงฯ ยูซีแอลคืนนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาจอมวางบอลของลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการเผชิญหน้ากับ วินิซิอุส จูเนียร์ ตัวรุกขั้นเทพจาก เรอัลมาดริดซึ่งถือเป็นงานยากระดับโหดสุดในเกมนัดชิงฯ ยูซีแอลค่ำคืนนี้

“แน่นอนว่าผมตั้งหน้าตั้งตารอการดวลกับ วินิซิอุส จูเนียร์ จนแทบทนไม่ไหวแล้ว และเหลืออีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เกมอันแสนวิเศษนี้ก็จะเปิดฉากขึ้น” เทรนท์ กล่าวกับลิเวอร์พูลเอคโค่

“แต่การดวลกับนักเตะฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่คนเดียวไม่ใช่เป้าหมายแรกที่ต้องโฟกัส เพราะผมตื่นเต้นกับทุกอย่างที่กำลังจะได้เจอในค่ำคืนนี้ คุณนึกภาพออกใช่ไหม การได้เล่นเกมนัดชิงฯ ยูซีแอลกับทีมระดับเรอัล มาดริดเราต้องเจอกับอะไรบ้าง ? ทั้งเรื่องแท็คติคสุดเข้มข้นจากยอดโค้ช ทั้งนักเตะระดับโลกมากมายที่รอให้เราก้าวไปท้าทายอยู่”

“การดวลอันดุเดือดจะต้องเกิดขึ้นทั่วทั้งสนาม ไม่ใช่แค่ตำแหน่งแบ็คขวาของผมอย่างเดียวแน่ ๆ ซึ่งพวกเราก็วางแผนมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์สุดโหดเหล่านั้นเอาไว้แบบพร้อมสุด ๆ แล้วเช่นกัน”

“วินิซุอุส เป็นยอดนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงมาก แม้จะยังอายุน้อยสุด ๆ แต่ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจเหลือเชื่อ ฤดูกาลนี้เป็นปีที่สวยงามสุด ๆ สำหรับเขา ทั้งเรื่องฟอร์มการเล่น จำนวนประตูและแอสซิสต์”

“แม้แต่ผมเองก็ยังชอบดูเขาบุกกระชากลากเลื้อยทำลายแนวรับคู่แข่งในทุก ๆ สัปดาห์เลยด้วยซ้ำ ซึ่งวันนี้การหยุดเขาคืองานหนึ่งที่ผมต้องรับผิดชอบโดยมีเพื่อน ๆ คอยให้ความช่วยเหลือ เพราะสุดท้ายแล้ว ฟุตบอลมันคือกีฬาที่เราต้องเล่นเป็นทีม”

เจอร์ราร์ด ส่งข้อความถึงลิเวอร์พูล ก่อนเกมนัดชิงฯ ยูซีแอลพร้อมทายผล+ใส่สกอร์

สตีเวน เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีม แอสตัน วิลลา ส่งข้อความให้กำลังใจถึงเหล่านักเตะ ลิเวอร์พูลก่อนเกมนัดชิงฯ ยูฟาแชมเปียนส์ลีกกับเรอัล มาดริดจะเปิดฉากขึ้น พร้อมทายผล+ใส่สกอร์เอาไว้ให้สาวกได้ลุ้นตาม

“ผมขออวยพรให้ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และขอให้ความโชคดีทั้งหลายทั้งปวงอยู่กับพวกเขาในค่ำคืนนี้” ตำนานกัปตันหงส์แดง กล่าวผ่านทวิตเตอร์สโมสร

“อันดับแรกผมอยากเห็นลิเวอร์พูล ทำทุกอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งเรื่องสภาพร่างกายนักเตะ, ฟอร์มการเล่นในสนาม ไปจนถึงผลลัพธ์ตอนท้าย ซึ่งแฟน ๆ ทุกคนเองก็คงคาดหวังเช่นนั้นเหมือนกัน”

เป้าหมายแรก

“หากใครได้มาอยู่ที่ปารีสวันนี้จะเห็นว่า เหล่าเดอะค็อปที่เดินทางตามมาเชียร์ได้ช่วยกันสร้างบรรยากาศโดยรอบให้คึกคักขั้นสุด มันเป็นอะไรที่สวยงามเหลือเชื่อ และทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อไปยังนักเตะทุกคนแน่นอน”

“ผลการแข่งจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ผมหวังว่ามันต้องเป็นการแข่งที่มหัศจรรย์จนยากจะจินตนาการออก แต่ถ้าลองให้ทายผลการแข่งล่ะก็ ส่วนตัวขอวางลิเวอร์พูล ชนะด้วยสกอร์ 2-0 แล้วกัน”

ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ 2018: ตามรอยแข้งทุกรายจากลิเวอร์พูล และเรอัล มาดริดในเวลานี้ ตอนนั้นเรายังไม่พบกับการแพร่ระบาดของ โควิด เรามีภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่ออกฉายในปีนั้นอย่าง โรมา, เกาะสุนัข และได้เป็นหนึ่งในสักขีพยานของเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศประวัติศาสตร์

เกมไฟนอลดังกล่าวเป็นการพบกันระหว่างเรอัล มาดริดและ ลิเวอร์พูลอมีเหตุการณ์ที่ตราตรึงอย่างอาการบาดเจ็บของโมฮาเหม็ด ซาลาห์หลังถูกเซร์คิโอ รามอสเข้าปะทะ ความผิดพลาดของ ลอริส คาริอุส และประตูจากลูกจักรยานอากศโดย แกเร็ธ เบล บทความในชุด  นี้จะพาผู้อ่านย้อนตามรอยเหล่าแข้งที่ได้มีส่วนร่วมในเกมนัดชิงชนะเลิศ ได้แก่

เซร์คิโอรามอสวีเอสโมฮาเหม็ด ซาลาห์ย้อนรอยดราม่านัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกก่อนรีแมตช์

อุบัติเหตุหรือเกิดจากความตั้งใจ? โหดร้ายทารุณหรือเป็นผู้บริสุทธิ์? เตรียมการไว้แล้วหรือเป็นแค่เหตุบังเอิญ?

ทั้งหมดด้านบนเป็นคำถามนนิรันดร์เมื่อย้อนนึกถึงการเข้าสกัดของ เซร์คิโอรามอส ใส่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ในเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก2018 ระหว่างเรอัล มาดริดพบลิเวอร์พูล

ในช่วงเวลานั้นซาลาห์ เป็นแข้งระดับปรอทแตก ร้อนแรงที่สุดของโลก เขาคือเครื่องจักรแห่งการทำประตูทั้งในยุโรปและรายการภายในประเทศ ซีซันดังกล่าวยังเป็นฤดูกาลเขามีผลงานที่ดีที่สุดจนถึงเวลานี้นับตั้งแต่เทิร์นโปร เดบิวต์ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพตั้งแต่ปี 2009 ที่สถิติ 44 ประตูจาก 52 นัดเมื่อรวมทุกรายการ

ก่อนที่เกมนัดชิงฯ ใน เคียฟ ประเทศยูเครน จะเริ่มต้นขึ้น สายตาของเหล่าแฟนบอล นักวิเคราะห์ทั้งปวงต่างจับจ้องไปที่การดวลกันระหว่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์กับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่สตาร์ชาว โปรตุเกส ตะบันประตูไปทั้งหมด 44 ลูกเท่ากันกับ ซาลาห์จนถึงเวลาดังกล่าว

แต่ในขณะที่สกอร์ยังเป็น 0-0 ค่ำคืนใน เคียฟ ของซาลาห์ ต้องสิ้นสุดลงเมื่อเขาล้มลงหลังถูก รามอสเข้าปะทะ และกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลังเกมผ่านเพียงราวครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

จังหวะดังกล่าวต่อเนื่องมาจากการทะยานพาบอลไปด้วยตนเองของ ซาลาห์ในแดนเรอัล มาดริดกลายเป็น รามอสที่เข้ามาเบียดปะทะพร้อมกับท่อนแขนที่หนีบเอาแขนของ ซาลาห์ไปด้วยจนเสียการทรงตัวล้มลง คีย์แมน หงส์แดง ต้องถูกหามออกจากสนามเพื่อปฐมพยาบาล กระทั่งถูก เยอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวออกจากสนามเมื่อไม่สามารถเล่นต่อไหวในที่สุด

ซาลาห์ก้มหน้าเดินเข้าสู่อุโมงค์ห้องแต่งตัวพร้อมกับน้ำตา อาการเจ็บของเจ้าตัวถูกเผยว่าเป็นอาการไหล่หลุด ขณะที่ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย รออยู่ในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น

พลพรรค โลสบลังโกส กลายเป็นผู้ชนะในเกมดังกล่าวด้วยสกอร์ 3-1 นับเป็นการคว้าโทรฟี บิ๊กเอียร์ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันของพวกเขา โดยมีตัวแปรสำคัญจากความผิดพลาดของ ลอริส คาริอุส 2 ครา บวกกับความยอดเยี่ยมของ แกเร็ธ เบล จากประตูด้วยลูกจักรยานอากาศ

ฝั่ง เดอะค็อป ได้เพียงแต่จินตนาการถึงโลกคู่ขนานที่หากยังมี ซาลาห์อยู่ในสนามตลอด 90 นาที มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คำถามถึง อุบัติเหตุหรือเกิดจากความตั้งใจ? โหดร้ายทารุณหรือเป็นผู้บริสุทธิ์? เตรียมการไว้แล้วหรือเป็นแค่เหตุบังเอิญ? ถูกโยนจากนักข่าวใส่รามอส มีเพียงเจ้าตัวคนเดียวเท่านั้นที่คำตอบสำหรับคำถามดังกล่าว

“นี่มันบ้าไปแล้ว พวกเขาใส่ใจกับเรื่องนี้เอามากๆ เรื่องของ ซาลาห์น่ะ” รามอสกล่าวตอบสื่ออย่าง อาส ใน สเปน “ผมไม่อยากที่จะเอ่ยถึงมันเลยเพราะทุกอย่างจะถูกขยายความออกไปอีก”

“ผมเห็นจังหวะนั้นเป็นอย่างดี เป็นเขาที่คว้าแขนของผมก่อนด้วยซ้ำและล้มไปอีกทาง เขาเจ็บที่แขนอีกข้างแต่กลายเป็นว่าพวกเขาบอกว่าผมใช้ท่ายูโดล็อคแขนเขาเสียอย่างนั้น”

“พอผมได้ยินผู้รักษาประตูสั่งการ ผมก็แค่เข้าไปบีบพื้นที่ใส่เขาก็เท่านั้น ผมคิดว่าสิ่งที่ยังไม่ถูกวิจารณ์แบบนี้คือการที่ ฟิร์มิโน ต้องเป็นไข้หวัดเพราะถูกเหงื่อผมกระเด็นใส่ล่ะมั้ง”

เหตุการณ์ดูเหมือนว่าจะคลี่คลายหลังจากนั้น แต่ 4 ปีให้หลัง ซาลาห์มีท่าทีกระตือรือล้นจะล้างแค้นอย่างเห็นได้ชัดจากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งยังคงฝั่งอยู่ในจิตใจของเจ้าตัวแม้ว่า รามอสจะบอกลา ราชันชุดขาว ซบตัก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไปแล้วตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็ตาม “ผมคิดว่ามันได้เวลาที่เราจะแก้แค้น” ซาลาห์ระบุในการให้สัมภาษณ์เมื่อไม่กี่วันก่อน เตรียมป็อปคอร์นของคุณให้พร้อมได้แล้ว