เข้าสู่ฤดูกาลใหม่ เอมิเรตส์ คัพ… ด้วยความคิดถึง “โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส”

เข้าสู่ฤดูกาลใหม่ อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ แฟนบอลอาร์เซนอล และเซบีย่า จะได้เป็นส่วนหนึ่งของ เอมิเรตส์ คัพ 2022 กันอีกครั้ง และครั้งนี้มันจะมีความหมายพิเศษยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงชายคนหนึ่งที่เคยเล่นกับทั้งสองสโมสรนี้ และแฟนบอลทั้งสองสโมสรนี้รักเขามากเหลือเกิน

เอมิเรตส์ คัพ กลับมาอีกครั้ง กับเกมการแข่งขันที่เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของแบรนด์สายการบินแห่งนี้ ซึ่งเข้ามาสู่วงการฟุตบอลในฐานะผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของวงการนี้ พวกเขามีหลายสโมสรมากที่ให้การสนับสนุนจากพวกเขา แต่ไม่มีที่ไหนจะเหมือนกับอาร์เซนอลที่ซึ่งพวกเขาสนับสนุนออกมาในรูปแบบของชื่อสนามแข่งในนาม “เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม” https://SoccerLiveHD.com

เข้าสู่ฤดูกาลใหม่

สนามเหย้าของอาร์เซนอลที่เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2006 และ เอมิเรตส์ คัพ ก็เกิดขึ้นในปีต่อมา เอมิเรตส์ คัพ เป็นเหมือนหนึ่งเกมปรีซีซั่นที่เราอาจจะเห็นกันมากมายทั่วโลก แม้กระทั่งในไทยก็เคยมีเกมพิเศษกับหลายสโมสร แต่ เอมิเรตส์ คัพ

เป็นหนึ่งในเกมปรีซีซั่นที่มีการจัดการแข่งขันเรื่อยมา มีหยุดบ้างห่างหายกันไปบ้างตลอดระยะเวลา 15 ปีที่เริ่มต้นการแข่งขันเป็นครั้งแรก ด้วยเหตุผลที่ง่ายที่สุด

“การตลาด-แฟนบอล-การเตรียมทีม” มันหาจุดลงตัวร่วมกันด้วยการแข่งขันรายการนี้ สายการบินผู้สนับสนุนได้โปรโมทแบรนด์ของตนอง ทีมได้เตรียมความพร้อมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ และแฟนบอลจะได้เข้าชมเกมเหย้าที่ว่ากันว่าหากตั๋วเข้าชมยากมากที่หนึ่งในโลกได้ง่ายกว่าเดิม เพราะพวกเขาจะแบ่งส่วนตั๋วเข้าชมส่วนหนึ่งเปิดขายให้กับแฟนบอลทั่วไปที่ถ้าคุณมาถึงสนามแล้วโชคดีบัตรยังมีเหลือก็สามารถซื้อเข้าไปชมได้เลย

จากจุดเริ่มต้นของการจัดการแข่งขันฟุตบอลถ้วยบอลทัวร์นาเมนต์สี่เส้ากันมาตลอดในปี 2022 นี้ เอมิเรตส์ คัพ กลับมาแล้ว หลังผ่านสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทั้งโลกต้องชะงักการทำงาน การใช้ชีวิต และทุกอย่างที่ควรจะเป็น มาวันนี้ฟันเฟืองชีวิตกลับมาเริ่มเดินหน้ากันได้แล้วอีกครั้ง และนำมาซึ่งเกมนี้

1 มิถุยายน 2019 หนึ่งในข่าวการเสียชีวิตของคนหนึ่งคนจากอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำในถนนสายหนึ่งย่านอูเตรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเมืองเซบีย่า ทำให้แฟนบอลทั่วโลกเสียใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแฟนบอลของเซบีย่า และ อาร์เซนอล

โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 35 ปีจากอุบัติเหตุครั้งนั้น สำหรับเด็กคนหนึ่งที่เกิดในแคว้นอันดาลูเซีย ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เกิดในเมืองที่มีสโมสรฟุตบอลในเมืองเหล่านั้น สำหรับเรเยส เซบีย่า หรือ เรอัล เบติส คือสองสโมสรที่ดีที่สุดของแคว้น และเรเยสก็มีช่วงที่ทั้งชอบ เบติส (มีภาพเขาสมัยเด็กใส่เสื้อของเบติส) และเซบีย่าก็รักไม่แพ้กัน สุดท้ายเมื่อต้องเลือกเขาเลือกเซบีย่า ทีมที่เขาร่วมทีมด้วยวัยเพียง 10 ปี

หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของทีมจนกระทั่งถึงการย้ายทีมครั้งแรกในปี 2004 สู่อาร์เซนอล ที่เขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์เช่นกัน

“ผมคือคนที่มีความสุขที่สุดในโลก และในเวลาเดียวกันผมก็เป็นคนที่มีความเสียใจมากที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน” เรเยส กล่าวไว้ในวันที่ 30 มกราคม 2004 ในตลาดการซื้อขายวันสุดท้ายของรอบนั้น เขาย้ายมาร่วมงานกับอาร์เซนอลด้วยค่าตัวมหาศาลที่ว่ากันว่าหากรวม add-on ทั้งหมดเขาจะมีค่าตัวประมาณ 17 ล้านปอนด์ ในยุคที่นักเตะแพงที่สุดในโลกอย่างซีเนอดีน ซีดาน มีมูลค่า 50 ล้านปอนด์

มันเป็นข้อเสนอก้อนใหญ่มากจนเซบีย่าไม่ต้องการปฏิเสธ และเรเยส ก็เข้าใจในเรื่องนั้นเป็นอย่างยิ่ง เมื่อสโมสรต้องการเงินมาใช้จ่ายในทีม เขาก็เลือกที่จะออกเดินทางครั้งสำคัญ

อาร์เซนอล ดูฟอร์มเขามานานนับปี ส่งแมวมองไปดูถึงสนามหลายต่อหลายครั้ง “40 เกม” คือตัวเลขประมาณที่อาร์แซน เวนเกอร์ เคยบอกว่าเขาให้ทีมงานไปดูฟอร์มของเด็กคนนี้ที่ลงเล่นกับเซบีย่า ก่อนตัดสินใจยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวดาวรุ่งที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในสเปนมาร่วมงานด้วย และเมื่อเขาตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ก็หมายถึงว่าเขาเลือกที่จะจากลาเซบีย่าทีมที่เขาร่วมงานมาตั้งแต่ทีมเยาวชน

เขากลายเป็นนักเตะคนสุดท้ายของทีมชุดใหญ่อาร์เซนอลในฤดูกาล 2003-2004 ที่ย้ายมาร่วมทีม เขากลายเป็นนักเตะในทีมชุด “ไร้พ่าย” ที่ยังคงเป็นเรื่องราวที่ยังไม่มีสโมสรไหนทำได้ นับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ ลีก มาตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา

ตลอด 2 ปีครึ่งในอังกฤษ เขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่แล้วก็ต้องจบเพียงแค่นั้น เขาอายุเพียง 20 ปีในวันที่ย้ายมาเล่นในอังกฤษ วัยรุ่นที่ต้องทิ้งทุกอย่างในชีวิตข้ามมาทำงานในต่างแดนลำพัง ความเหงาเกาะกินใจเขาจนสุดท้ายเขากลายเป็น “โฮมซิค” และขอกลับไปใช้ชีวิตในสเปน ด้วยการย้ายแบบยืมตัวไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ที่ซึ่งเขาได้แชมป์ ลา ลีกา ที่นั่น ก่อนย้ายไปเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด, เบนฟิก้า

และกลับไปที่ เซบีย่าในปี 2011 อีกครั้ง และช่วยทีมคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีกได้ถึงสามสมัยซ้อย ก่อนจะออกเดินทางอีกครั้งไปเล่นอีกหลายสโมสร ก่อนที่ถึงวันสุดท้ายของชีวิต เขายังคงเป็นนักเตะของ เอ็กเตรมาดูร่า ทีมระดับล่างของสเปนที่ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านเกิดของเขา และการเดินทางกลับจากการซ้อมในวันหนึ่งนั้น ก็เป็นวันสุดท้ายของชีวิต

สื่อปูด อาร์เซนอล สะกิด เวสต์แฮม หวังซิว โบเวน ก่อนปิดตลาด

เบน จาค็อบส์ ผู้สื่อข่าวของทาง ซีบีเอส ได้ออกมาเปิดเผยว่า มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมของ อาร์เซนอล ได้มีการสอบถามไปยัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมคู่แข่งในศึก พรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายทีมของ จาร์ร็อด โบเวน ในช่วงซัมเมอร์นี้

ปีกวัย 25 ปีถือเป็นนักเตะที่โดดเด่นคนหนึ่งของทีม ขุนค้อน เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวหนาหูกับ ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตามล่าสุดเจ้าตัวก็ตกเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของ เดอะกันเนอร์ส ทีมร่วมกรุงลอนดอนไปแล้ว

จาค็อบส์ ได้เปิดเผยเรื่องนี้กับทางเว็บไซต์ ว่า ทาง มิเกล อาร์เตต้า ได้ให้ความสนใจ โบเวน เป็นอย่างมากและเขาได้มีการสอบถามไปยัง เวสต์แฮม ถึงความเป็นไปได้ในการย้ายทีมด้วย

เข้าสู่ฤดูกาลใหม่

“ด้าน โบเวน จุดยืนของ เวสต์แฮม ก็คือพวกเขาไม่ต้องการขายนักเตะคนนี้ ซึ่งมีหลายสโมสรที่วนเวียนตกเป็นข่าวด้วย แต่ความท้าทายก็คือ คล้าย ๆ กับกรณีของ ดีแคลน ไรซ์ ที่ทำอย่างไรจึงจะโน้มน้าวให้ เวสต์แฮม ปล่อยตัวเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ให้ได้ ในขณะที่สโมสรก็ยืนยันว่านักเตะไม่ได้มีไว้ขาย”

“ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ หากว่า โบเวน จะย้ายไปเล่นให้กับ อาร์เซนอล แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นแค่เรื่องสมมติ เพราะ เวสต์แฮม ไม่ต้องการขาย แต่ทาง อาร์เซนอล ก็ได้ทำการสอบถามเกี่ยวกับ โบเวน ไปแล้วเพื่ออยากรู้ว่าสถานการณ์ของนักเตะเป็นอย่างไร แและพวกเขาก็ได้คำตอบเรียบร้อย”

พาร์เลอร์ สุดมั่นเชื่อ อาร์เซนอล จบอันดับ 3 เหนือ สเปอร์ส-เชลซี เรย์ พาร์เลอร์ ออกอาการมั่นใจสุดขีดโดยเชื่อว่า อาร์เซนอล ทีมเก่าของตนจะสามารถจบอันดับ 3 ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้เมื่อดูจากการเสริมทีมรวมทั้งผลงานในช่วงพรี-ซีซันที่ผ่านมา ตามรายงานจาก มิเรอร์

มิเกล อาร์เตต้า จัดการคว้าแข้งหน้าใหม่อย่าง กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมทั้ง ฟาบิโอ วิเอรา จาก เอฟซี ปอร์โต้ ทำให้พวกเขาได้รับคำชมอย่างมากบวกกับผลงานอันยอดเยี่ยมในเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งอดีตกองกลาง ปืนโต ยุค 90 เชื่อว่าทีมของเขาดีพอที่คว้าท็อปโฟร์ได้อย่างไม่ยากเย็น

“ผมเลือก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก) แล้วก็ ลิเวอร์พูล อันดับ 2 ผมคิดว่า อาร์เซนอล ควรต้องตั้งเป้าที่ 3 เอาไว้ นั่นควรจะเป็นเป้าหมายของพวกเขา หากสามารถทำให้นักเตะทุกคนคงความฟิตเอาไว้ได้ และถ้าได้เพิ่มมาอีกซักคนพวกเขาจะเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ”

“ดังนั้นผมจึงเลือกให้พวกเขาได้ที่ 3 ต่อจากนั้นก็ สเปอร์ส ที่ดีพอสำหรับอันดับ 4 และคิดว่า เชลซี จะมีปัญหาในซีซันนี้ นอกจากว่าพวกเขาจะเซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่ อาจจะอีกซัก 2 คนก่อนที่จะปิดตลาดซึ่งอาจทำให้คุณเปลี่ยนใจ อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ก็ต้องการเป็นแชมป์ซักถ้วยด้วย”