สู่สนามจริง “เก่งพอก็แก่พอ” กับคาร์ลอสเกวสต้า

สู่สนามจริง คาร์ลอสเกวสต้ากลายเป็นชื่อที่แฟนบอลอาร์เซนอลหลายคนอยากรู้จักเขาทันที หลังจากหนุ่มสเปนที่อายุไม่ถึง 30 ปีคนนี้ เข้ามาเป็นทีมงานของอาร์เซนอล และมีบทบาทไม่น้อยในสารคดีฟุตบอลของสโมสร ซึ่งกำลังออกฉายผ่านทาง อยู่ในเวลานี้

เด็กหนุ่มที่เกิดในมายอร์ก้า ประเทศสเปน จากเด็กหนุ่มคนหนึ่งในจำนวนไม่น้อย ที่หลงรักในฟุตบอล แต่ไม่ได้เลือกเส้นทางในการเข้าสู่วงการอาชีพนักเตะ แต่เลือกเข้าสู่วงการในการทำงานร่วมกับนักเตะแทนนั่นคือในส่วนของวงการโค้ช และเขาก็ได้งานแรก

จุดเริ่มต้นของเกวสต้า ในวงการฟุตบอล เริ่มต้นจากในช่วงชีวิตมัธยม ก้าวเข้าสู่ชีวิตรั้วมหาวิทยาลัย เส้นทางงานโค้ชไม่เหมือนกับเส้นทางของนักเตะอาชีพที่ นักเตะอาชีพ หลายคนเรียนจบเพียงมัธยมปลายก็มีไม่น้อย และก็ใช้เวลาที่เหลือในการทุ่มเทกับการเล่นฟุตบอล เพื่อผลักดันตนเองไปสู่ชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินตรา แต่กับงานโค้ช มันไม่ได้ต่างอะไรจากการทำงานทั่วไป คุณต้องเริ่มต้นจากการใฝ่รู้

และต้องรู้ให้จริงในการทำงานของคุณ และไม่มีที่ไหนจะสอนคุณได้เท่ากับรั้วมหาวิทยาลัย เป็นจุดแรกเริ่ม ก่อนเข้าสู่สนามจริงในวงการอาชีพกันต่อไป แต่เกวสต้า จะต่างไปสักหน่อยเขาโชคดีที่ตัวเองได้งานกับ แอตเลติโก มาดริด ในทีมเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งเขาทำงานเป็นงานพาร์ทไทม์ เพราะตัวเองต้องไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ

เกวสต้าในช่วงมหาวิทยาลัย เขาตัดสินใจออกจากบ้านในสเปน มุ่งหน้าสู่โปรตุเกสด้วยการย้ายไปเรียนในมหาวิทยาลัยปอร์โต้  ในประเทศโปรตุเกส ซึ่งที่นั่นทำให้เขาได้พบกับ วิเตอร์ ฟราเด้ อาจารย์ชาวโปรตุเกสที่สอนเกี่ยวกับเรื่องของทฤษฎีของการกำหนดแนวทาง และเรียนรู้ความซับซ้อนในสิ่งต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้งานในวงการฟุตบอลซึ่งเรียกกันว่า ระยะเวลาทางยุทธวิธี

ซึ่งจะเป็นการผสมผสานการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของฟุตบอลเข้ามาทำงานได้พร้อมกัน ยกตัวอย่างเช่น การซ้อมเรื่องของสภาพร่างกาย และการซ้อมแท็กติกการเล่น เราสามารถจัดตารางการซ้อมให้สามารถทำไปพร้อมกันได้ เพื่อให้คุณลดระยะเวลาในการซ้อมให้น้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพเพิ่มเป็นสองเท่าการซ้อมที่เน้นในเรื่องพละกำลังเป็นหลักก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นการซ้อมที่ควบคู่ไปกับการซ้อมที่ผู้เล่นเข้าใจในระบบการเล่นของทีมไปในเวลาเดียวกัน

ศาสตร์ดังกล่าวเกวสต้า ได้รับการเรียนรู้มาตลอดชีวิตในโปรตุเกส และเขาจดจำ ออกแบบการทำงานของตนเองภายใต้แนวคิดนั้น ซึ่งมีโค้ชหลายคนเรียนรู้มาจาก ฟราเด้ หนึ่งในนั้นคือ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในงานผู้จัดการทีมในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา https://SoccerLiveHD.com

สู่สนามจริง

บนวัย 22 ปีเกวสต้า จบการศึกษาในโปรตุเกส และพกความรู้เข้าสู่วงการฟุตบอล ผ่านสายงานของตนเอง หากการทำงานของนักเตะเป็นภาพที่ว่าเริ่มต้นจากเด็กรักฟุตบอล แมวมองเห็นแวว ชวนคุณเข้าทีมเยาวชนสโมสร พัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่ ก้าวไปติดทีมชาติ หรือคว้าแชมป์อะไรมากมาย

เส้นทางของงานโค้ชก็เป็นอะไรที่ไม่ต่างกันนัก แต่พวกเขาไม่ได้เริ่มต้นในสนาม แต่เริ่มต้นในห้องประชุม ซึ่งด้วยความที่เขาทำงานกับ แอตเลติโก มาดริด มาก่อนแล้ว เขาก็ได้มีโอกาสเข้าประชุมสัมมนางานโค้ชที่ทาง ลา ลีกา เป็นโต้โผในการจัดงาน

และก็เชิญโค้ชจากหลายสโมสรในยุโรปเข้ามาร่วมประชุมด้วย หนึ่งในนั้นคือ ยูเวนตุส ซึ่งเขาก็ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารของสโมสร ได้คุยถึงแนวทางปรัชญาของตนเอง และนั่นก็ทำให้เขาได้งานที่อิตาลีทันที ในฐานะของผู้ช่วยโค้ชทีมระดับอายุต่ำกว่า 23 ปี

ที่นั่นการศึกษาบทเรียนใหม่เริ่มต้นขึ้น ฟุตบอลอิตาลี ที่มักถูกพูดถึงเกมรับที่ดี สไตล์การเล่นที่ไม่เน้นเร้าใจแต่เน้นผลในยุคก่อน แม้จะเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว แต่แนวคิดเหล่านั้นก็ยังคงมีอยู่ และนั่นทำให้เกวสต้า เก่งขึ้น ความรู้มากขึ้น ขวนขวายหาความรู้กลับมาได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาก่อนหน้านั้นไม่นานนัก เขาผู้ซึ่งเป็นหนุ่มไฟแรงก็อยากที่จะหาความรู้เพิ่มเติมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นหนึ่งในสโมสรที่เขาส่งข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์แนวทางการเล่นที่เขาศึกษามาของทีมเรือใบสีฟ้ามาให้สโมสรโดยตรง

จนทำให้สโมสรสนใจพร้อมกับเชิญเขามาสังเกตการณ์ซ้อมของทีมในช่วงเวลาหนึ่ง และที่นั่นคือ “จุดเชื่อมต่อ” ที่ทำให้เขารู้จักกับมิเคล อาร์เตต้าผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในเวลานั้น และต่างฝ่ายต่างประทับใจในความสามารถของกันและกัน

จนในที่สุดเมื่ออาร์เตต้า ออกมารับงานคุมทีมอาร์เซนอลในเดือนธันวาคม 2019 เขาก็ต้องมองหาทีมงานของเขาเองเกวสต้า ถูกชักชวนมาร่วมงานด้วยเป็น “ระลอกสอง” ของทีมงานโค้ชที่เขาเลือกมาร่วมงานเกวสต้า ในวัย 25 ปี มาร่วมงานกับอาร์เซนอลในช่วงต้นฤดูกาล 2020-2021

ในฐานะของผู้ช่วยโค้ชของอาร์เตต้า ผู้ซึ่งมีหน้าที่เจาะจงลงไปในเรื่องของการพัฒนานักเตะแบบรายบุคคล ซึ่งจะนำวิดีโอการเล่นของนักเตะมาศึกษา เรียกนักเตะรายตัวมานั่งคุย ศึกษารายละเอียดการเล่นร่วมกัน แนวคิดการตัดสินใจในการเล่นในจังหวะที่สำคัญ รวมถึงเรื่องของการดึงความต้องการ ความเป็นตัวตนของผู้เล่นออกมา ภายใต้การทำงานร่วมกับ โค้ชอย่าง อัลเบิร์ต สตูเวนเบิร์ก ผู้ซึ่งทำงานด้านแท็คติกการเล่นโดยตรงให้กทีมเพื่อเป้าหมายเดียว

อาร์เตต้าอัพเดตความพร้อม อาร์เซนอลก่อนเปิดบ้านพบเลสเตอร์ซิตี้

มิเคลอาร์เตต้านายใหญ่อาร์เซนอลกล่าวเกี่ยวกับความพร้อมของเหล่านักเตะที่มีอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ โดย อาร์เซนอลจะเปิดบ้านพบกับเลสเตอร์ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้

ฟาบิโอ วิเอร่า, เอมิล สมิธ โรว์ รวมถึง ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ คือสามคนที่ยังคงไม่ได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้เลยตั้งแต่ในช่วงปรีซีซั่น โดยเฉพาะ วิเอร่า ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ และต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของสภาพร่างกายในการจะลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก ขณะที่คีแรน เทียร์นีย์ กลับมาลงเล่นได้แล้วในเกมเปิดฤดูกาลในฐานะตัวสำรอง

“นักเตะหลายคนอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อม และแต่ละคนอยู่ในช่วงเวลาและความพร้อมที่แตกต่างกันออกไป แต่จะมีบางคนอยู่ในทีมในวันพรุ่งนี้” “สำหรับวิเอร่ามันขึ้นกับตัวของเขาคนที่จะเล่นร่วมกับเขา และเกมการแข่งขันเป็นแบบไหน ทั้งหมดไม่มีเวลาให้เขาปรับตัวนัก แต่สิ่งที่ผมสามารถบอกได้คือเขาทำทุกอย่างได้ค่อนข้างดี”

“คีแรน เพิ่งลงเล่นในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 15-20 นาที และเขาทำได้ดีมากหลังจากที่หายจากทีมไปเป็นเวลานานจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า แต่เขาดูฟิตสมบูรณ์ดีมาก และพร้อมแล้วกับการลงเล่นต่อไป”

สู่สนามจริง

“เอมิล จำเป็นต้องฟิตร่างกาย และซ้อมต่อไปเพื่อเรียกฟอร์มของเขากลับมา เพราะถ้าเขาอยู่ในฟอร์มการเล่นในระดับที่เคยทำได้มาก่อน มันก็ยากที่จะไม่เลือกเขาลงเล่นในทีมตัวจริง” นอกจากนี้อาร์เซนอล ต้องพบกับข่าวร้ายเมื่อ รีส เนลสัน มีอาการบาดเจ็บ และจะพลาดโอกาสในการลงเล่นเกมนี้อย่างแน่นอน

“เรารู้สึกบางอย่างระหว่างการซ้อม เราทำการตรวจดูแล้วพร้อมกับข่าวร้ายจากทีมแพทย์ของเรา มันเป็นปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและเราหวังว่าเขาจะกลับมาได้ในไม่ช้านี้

ซึ่งตอนนี้เรายังไม่สามารถกำหนดเวลาได้เวลาต้องใช้เวลาเท่าไนในการกลับมาลงเล่นได้ เราต้องทำการทดสอบและตรวจให้ได้ข้อมูลมากกว่านี้ หวังว่าในสัปดาห์หน้าเราจะได้ข้อมูลนั้น”

แมนฯซิตี้แอบเหล่แข้งอาร์เซนอล เป็นหนึ่งในทางเลือกในตำแหน่งแบ็คซ้าย

แกรม เบลีย์ รายงานว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ต้องการมองหาทางเลือกในตำแหน่งแบ็คซ้าย กำลังให้ความสนใจไปที่ คีแรน เทียร์นีย์ ของอาร์เซนอล ณ เวลานี้ หลังจากที่พวกเขาเสีย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ไปให้กับ ปืนใหญ่ ณ ปัจจุบันทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เหลือเพียง ชูเอา คันเซโล เพียงรายเดียวในตำแหน่งนี้ให้เรียกใช้งานทั้งที่นักเตะก็ไม่ใช่แบ็คซ้ายโดยธรรมชาติ

โดยตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมาพวกเขาตกเป็นข่าวกับ มาร์ค คูคูเรญา แบ็คจอมบุกของ ไบรท์ตัน แต่สุดท้ายตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาเนื่องจากค่าตัวที่ตั้งไว้สูงจนเกินไปทำให้หลังจากนั้นนักเตะก็เลือกย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในที่สุด

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้แมนฯซิตี้ ตกเป็นข่าวกับแบ็คหลายรายทั้ง ราฟาเอล เกร์เรย์โร ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อเล็กซ์ กริมัลโด้ ของเบนฟิก้า เซร์คิโอ โกเมซ จาก อันเดอร์เลชท์ และรายล่าสุดอย่าง คีแรน เทียร์นีย์ของอาร์เซนอล ก็เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของ เรือใบสีฟ้า เช่นเดียวกัน