สนามดวล เรอัล มาดริดพบ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต: ลิงค์ถ่ายทอดสด, พรีวิว ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ, วันเวลาแข่งขัน และคาด 11 ตัวจริง

สนามดวล ความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ทัพ ราชันชุดขาว ในฐานะแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมาจะนำโดยคาริม เบนเซมาปักหลักเป็นหัวหอกตัวเป้าโดยแข้งใหม่ของพวกเขาทั้ง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ ออเรลียง ชูอาเมนี พร้อมเดบิวต์เกมนัดแรกอย่างเป็นทางการให้กับทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ

ทั้งนี้พลพรรค โลส บลังโกส ไร้ปัญหาแข้งเดี้ยงโดยสามารถใช้ทรัพยากรแบบฟูลทีม โดยเกมนี้นับเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างเรอัล มาดริดกับ แฟรงค์เฟิร์ต นับตั้งแต่ ยูโรเปี้ยน คัพ นัดชิงชนะเลิศปี 1960 สนามดวล โดยชัยชนะในเกมดังกล่าวตกเป็นของทัพ ราชันชุดขาว 7-3

รายชื่อนักเตะที่เรอัล มาดริดลงทะเบียน
ผู้รักษาประตู: กูร์ตัวส์, ลูนิน
กองหลัง: การ์บาฆาล, มิลิเตา, อลาบา, บาเยโฆ, นาโช, โอดริโอโซลา, รูดิเอร์, เมนดี้
กองกลาง: โครส, โมดริช, คาเซมิโร, บัลเบร์เด้, บาซเกวซ, ชูอาเมนี, เซบายอส, คามาวินก้า
กองหน้า: อาซาร์, เบนเซมา, อเซนซิโอ, วินิซิอุส, โรดริโก้, มาเรียโน

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริงเรอัล มาดริด(4-2-3-1): กูร์ตัวส์; การ์บาฆาล, มิลิเตา, อลาบา, เมนดี้; โครส, คาเซมิโร; บัลเบร์เด้, โมดริช, วินิซิอุส;เบนเซมา
แฟรงค์เฟิร์ต ต้องการเกมเรียกความมั่นใจหลังพวกเขาเพิ่งเปิดหัว บุนเดสลีกา นัดแรกด้วยการปราชัยคาบ้านต่อ บาเยิร์น มิวนิค ขาดลอย 6-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเกมนี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขาในการมีส่วนร่วมโม่แข้งใน ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ

ไฮไลท์ของพวกเขาคือการได้ เกิตเซ จาก พีเอสวี เสริมทัพในตลาดซัมเมอร์โดยอดีตแข้งเรอัล มาดริดรายนี้มีสิทธิ์ถูกส่งลงสนามดวลกับทีมเก่าของเขา

รายชื่อนักเตะที่ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ลงทะเบียน
ผู้รักษาประตู: แทร็ปป์, กราห์ล, รามาจ
กองหลัง: เอ็นดิคกา, สโมลซิช, ตูเร, แชนด์เลอร์, เลนซ์, ตูตา, อ็อตโต้
กองกลาง: ยาคิช, โซว์, คอสติช, คามาดะ, โรเด, ฮาเซเบะ, เกิตเซ, ลินด์สตรอม, คนอฟฟ์, ลูเน
กองหน้า: มูอานี, อลิดู, บอร์เร, อลาริโอ, เฮาเก้

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต (3-4-2-1): สนามดวล แทร็ปป์; ตูเร, ตูต้า, เอ็นดิคกา; คนอฟฟ์, โซว์, โรเด, คอสติช; คามาดะ, เกิตเซ; บอร์เร https://SoccerLiveHD.com

ย้อนดู 7 แข้งตัวหลักของ อาแจ็กซ์ที่ย้ายออกหลังทะลุถึงรอบรอง แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19

ในฤดูกาล 2018/19 อาแจ็กซ์เป็นทีมที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆฟุตบอล ยุโรป เป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาหักทุกปากกาเซียนกรุยทางผ่านเรอัล มาดริดและ ยูเวนตุส มาได้ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

น่าเสียดายที่อีกแค่อึดใจเดียว เอริค เทน ฮาก และลูกทีมก็จะได้ลิ่วไปชน สนามดวล ลิเวอร์พูล ในรอบชิงอยู่แล้วเชียว แต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

หลังจบฤดูกาลดังกล่าว ทุกสายตาได้จับจ้องมาที่เหล่าสตาร์ของทีมในชุดนั้น พร้อมกับค่อยๆพรากแข้งตัวหลักของทีมยักษ์ใหญ่ในลีก ดัตช์ ไปทีละคนสองคน จนในปัจจุบันแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมอยู่แล้ว เรามาย้อนดูกันว่าแต่ละคนที่ย้ายออกไปเขาประสบความสำเร็จกันมากน้อยเพียงใด

เฟรงกี้ เดอ ยอง ย้ายออกไปยัง บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโร ด้วยความหวังจะเข้ามาแทนที่ของ เซร์คิโอ บุสเก็ตต์ ที่กำลังอยู่ในวัยโรยรา ทว่าไม่ม่ีใครคาดคิดว่ากองกลางชาว สเปน จะยังสามารถยืนเป็นกำลังหลักให้ทีมมาได้อย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ จนทำให้ เดอ ยอง จำต้องขยับไปเล่นในตำแหน่งที่สูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย

ผลงานของเขาไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใด ชาบี จึงพร้อมจะเสียเขาไปหากมันสามารถช่วยกอบกู้สถานการณ์ทางการเงินได้

มัธไธส์ เดอ ลิกต์ มีข่าวว่า บาร์เซโลนา ตั้งใจจะรวบแพ็คคู่ไปกับ เดอ ยอง แต่แล้วพวกเขาก็เปลี่ยนใจจนสุดท้ายก็เป็น ยูเวนตุส ที่จ่ายหนัก 75 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัวเขามาเรียนรู้งานจาก โบรุชชี่ และ คิเอลลินี่ ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เคียงข้างกับสองแข้งวัยเก๋าที่หมุนเวียนกันมาลงสนาม

จริงอยู่ที่ เดอ ลิกต์ อาจจะไม่ได้เล่นผิดพลาดให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่เขาเองก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้และป้องกันไม่ให้ ยูเวนตุส ถอยหลังลงคลองแบบที่เป็นในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา

ปธ.ยูฟ่ายืนยัน “ซูเปอร์ ลีก” โปรเจคต์พังเรียบร้อย เพราะไม่มีทีมอยากเข้าร่วม

อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานยูฟ่า ยืนยันโปรเจคต์ “ซูเปอร์ลีก” ล่มแน่นอนแล้ว หลังจากไม่มีสโมสรใดต้องการมีส่วนร่วมอีกแล้ว ฤดูกาลที่แล้ว สโมสรฟุตบอลระดับชั้นนำจำนวนมากได้ทำการร่วมกันประกาศการเข้าร่วม “ซูเปอร์ลีก”

ซึ่งเป็นโปรเจคต์ที่เป็นการร่วมมือกันของหลายสโมสรนำโดย ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริดในการที่จะดึงสโมสรดังของแต่ละลีกยุโรปออกมาแข่งขันกันเอง หารายได้กันเอง

จากการที่พวกเขาไม่พอใจถึงรายได้ที่ได้รับจากการจัดการของยูฟ่า ก่อนที่โปรเจคต์ดังกล่าวจะเงียบหายไปในเวลาไม่นาน ซึ่งแม้ว่าจะยังคงมีการพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่บ้าง แต่ เซเฟริน ก็ยืนยันว่าโปรเจคต์ดังกล่าวนั้นได้ตายไปเรียบร้อยแล้ว

“ผมจะย้ำอีกครั้งว่า ยูฟ่า ไม่ใช่เกมเศรษฐี คุณมีอิสระในการจะเป็นส่วนหนึ่งกับเราหรือไม่ก็ตาม คุณสามารถจะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยของเรา หรือจะสร้างรายการแข่งขันของตัวเองก็ได้ แต่สุดท้ายตามตรรกะแล้วคุณไม่อยากเล่นฟุตบอล

ในรายการที่เราจัดขึ้นหรือ ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ ผลการตัดสินของศาลไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซูเปอร์ ลีก ตายไปแล้ว เพราะไม่มีทีมที่อยากจะเข้าร่วมกับการแข่งขัน ผมเห็นเพียงคนเพียงไม่กี่คนที่ยังโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้นแค่นั้น”

อาแจ็กซ์ – อับเดลฮัค นูริ “หนึ่งเดียวกันตลอดไป” 8 กรกฎาคม 2017 หรือเกือบ 5 ปีแล้วที่ อับเดลฮัค นูริ (25 ปี) อดีตกองกลางอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม พบกับเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา หลังจากเขาวูบระหว่างเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ซึ่งเกิดขึ้นในแคมป์ที่ประเทศออสเตรีย ซึ่งสุดท้ายจบลงด้วยการเสียเซลล์สมองบางส่วนที่ถูกทำลายอย่างถาวร

เขากลายเป็นเจ้าชายนิทรานานนับปี แม้จะมีรายงานว่าเขาตื่นขึ้นแล้วในปี 2020แต่ก็ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเพื่อความเป็นส่วนตัวของเขา…มีเพียงคนในครอบครัว และบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่ได้พบกับเขา ซึ่งสามารถสื่อสารได้บ้างผ่านทางการขยับริมฝีปาก และกะพริบตา

หากทุกวันนี้ อับเดลฮัค นูริ ยังคงลงเล่นฟุตบอลได้ต่อไปอาแจ็กซ์ อาจจะมีนักเตะชั้นยอดอีกคนอยู่ในวงการฟุตบอล ในเรื่องของกฎหมายครอบครัวของนูริ มีการยื่นเรื่องต่อศาลเกี่ยวกับการจัดการของอาแจ็กซ์

ในเรื่องเกี่ยวกับการเข้าถึงตัวนูริช้าเกินไป ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ไม่มีการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง และทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แน่นอนอาแจ็กซ์ ยอมรับในเรื่องนี้ เจรจากับครอบครัวอย่างเข้าใจในความสูญเสีย พวกเขาจะเยียวยาอย่างดีที่สุดสำหรับเขาที่มีชีวิตอยู่เพื่อครอบครัว และแน่นอนแฟนบอลก็ยังคงไม่ลืมเขา เช่นเดียวกับสโมสรที่เห็นเขามาตั้งแต่อายุ 8 ปี

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ประกาศยินดีและยินยอมจ่ายเงินจำนวน 7.85 ล้านยูโรในการดูแลค่ารักษาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นเหตุการณ์จนถึงในอนาคตจนกว่าจะครบจำนวนเงินดังกล่าว หลังเรื่องทางกฎหมายจบสิ้นลง พวกเขาประกาศมอบหมายเลข 34 ซึ่งเป็นหมายเลขของเจ้าตัวที่เลือกใช้ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของการพาอาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ เอเรเดวิซี ลีก สมัยที่ 34 (ในยุคที่เขายังลงเล่นอยู่ และปัจจุบันอาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ไปแล้ว 36 สมัย)

ให้กลายเป็นหมายเลขของอับเดลฮัค และครอบครัวนูริตลอดไป หากวันหนึ่งคนในตระกูลนูริได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม พวกเขามีสิทธิ์จะได้รับหมายเลขนี้ไปใช้งานต่อไป