นัดชิงชนะเลิศ กวาร์ดิโอล่า ยอมรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องปล่อยผู้เล่นหลักเพื่อความสมดุลในทีม

นัดชิงชนะเลิศ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่าการปล่อยนักเตะในตลาดการซื้อขายรอบนี้ ทำให้สโมสรมีการสมดุลและยั่งยืนมากขึ้นในฐานะของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้มีการปล่อยนักเตะหลักออกไปถึงสามคนในตลาดการซื้อขายรอบที่ผ่านมา พวกเขาปล่อย กาเบรียล เฆซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (อาร์เซนอล) และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (เชลซี)

ทำให้พวกเขาได้เงินกลับมามากกว่า 120 ล้านปอนด์ รวมถึงยังมีนักเตะเยาวชนอีกหลายคนทีม และส่งผลให้เป็นการได้เงินคืนกลับมามากที่สุดของสโมสรในการซื้อขายของพวกเขา นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งกวาร์ดิโอล่ายอมรับว่าเป็นสิ่งที่จะเป็นน่าเสียใจแต่ก็มีความจำเป็น

“ในส่วนผมก็มีความเสียใจกับการที่ได้เห็นนักเตะสำคัญออกจากทีมไป แต่มันคือธุรกิจ คือการลงทุน ผมทราบดีว่าภาพลักษณ์ของสโมสรเรามักคือการซื้อผู้เล่นเพียงอย่างเดียว แต่เราก็มีการขายด้วยเช่นกัน เราขายผู้เล่นตัวหลักเพื่อเงินก้อนใหญ่” “ทุกสโมสรตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ของการขายผู้เล่นที่ไม่ง่ายเสียเลย ทุกคนต้องทำแต่มันไม่ใข่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้” https://SoccerLiveHD.com

นัดชิงชนะเลิศ

ทั้งนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีการเสริมผู้เล่นด้วยผู้เล่นระดับท็อปไม่ว่าจะเป็น เออร์ลิ่ง เบร้าส์ ฮาแลนด์, คาลวิน ฟิลลิปส์ และ ยูเลี่ยน อัลวาเรซ เข้ามา โดยพวกเขายังคงต้องการตัวของ มาร์ค คูคูเรลล่า กองหลังไบร์ทตันมาร่วมงานด้วยอีกหนึ่งคนในตลาดการซื้อขายรอบนี้

อาเก้ ตกลงสัญญาส่วนตัวเชลซีเรียบร้อย รอลุ้นสโมสรตกลงค่าตัว นาธาน อาเก้ ใกล้อำลาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ร่วมทัพเชลซีเข้าไปทุกขณะ นัดชิงชนะเลิศ หลังการเจรจาสัญญาส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการเจรจาค่าตัวระหว่างสองสโมสรเท่านั้น

แนวรับทีมชาติเนเธอร์แลนด์วัย 27 ปี ย้ายมาเล่นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2020 โดยมีสัญญาถึงกลางปี 2025 อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รับโอกาสมากนักโดยตลอดสองฤดูกาลเขาลงเล่นไปเพียง 40 เกมในทุกรายการเท่านั้น

ตามรายงานจากสื่ออังกฤษระบุว่า เชลซี สนใจในตัวของเขาอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับที่นักเตะก็ต้องการตัวไปเขาไปร่วมงานด้วย หลังจากเสียนักเตะในแนวรับไปหลายคนเวลานี้ และพวกเขาสามารถตกลงสัญญาส่วนตัวกับนักเตะได้แล้ว อย่างไรก็ตามการเจรจากับทั้งสองสโมสรยังไม่เกิดขึ้น และแมนเชสเตอร์ ซิตี้คาดหวังตัวเลขค่าตัวจะอยู่ที่ประมาณ 40-45 ล้านปอนด์ เพื่อนำทุนไปมองหากองหลังตัวกลางคนใหม่มาร่วมงานต่อไป

ก่อนหน้า สเตอร์ลิง ย้อนรอย 5 ดีลซื้อขายระหว่าง เชลซี-แมนฯ ซิตี้ ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา

ดูจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นสำหรับดีลการย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ของ ราฮีม สเตอร์ลิง ไปร่วมทีม เชลซี หลังจากล่าสุดมีข่าวว่า เรือใบสีฟ้า ตอบตกลงข้อเสนอ 45 ล้านปอนด์ของ สิงห์โตน้ำเงินคราม นัดชิงชนะเลิศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งหากดีลนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี สเตอร์ลิง จะเป็นนักเตะรายที่ 6 ที่ทั้งสองสโมสรทำการซื้อขายกันนับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกท่านย้อนกลับไปชมก่อนว่า 5 ดีลก่อนหน้าที่สองยักษ์ใหญ่แห่ง พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เคยทำการซื้อขายกันมีใครบ้าง ตามไปชมกัน

ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ปีกดีกรีทีมชาติอังกฤษเป็นเด็กปั้นของแมนฯ ซิตี้และแจ้งเกิดกับทีมได้สำเร็จ กระทั่งปี 2005 เชลซี จัดการสอยมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 28 ล้านปอนด์ จนในอีก 3 ปีต่อมา เรือใบสีฟ้า ตัดสินใจซื้อกลับมาร่วมทีมอีกครั้งด้วยค่าตัวเพียง 10 ล้านปอนด์ซึ่งก็ทำผลงานได้ค่อนข้างดี ก่อนที่ปี 2011 ย้ายออกไปอยู่กับ คิวพีอาร์ ในที่สุด

ทาล เบน-ฮาอิม ปราการหลังชาวอิสราเอลย้ายจาก โบลตัน มาอยู่กับ เชลซี แบบไร้ค่าตัวในปี 2007 แต่ไม่สามารถยึดตัวหลักในทีมได้ ทำให้หนึ่งปีต่อมา แมนฯ ซิตี้ตัดสินใจควักเงิน 5 ล้านปอนด์กระชากตัวมาร่วมทีม แต่ก็ยังคงตกอยู่บนม้านั่งสำรองเสียเป็นส่วนใหญ่จนต้องถูกส่งต่อให้ ซันเดอร์แลนด์ ยืมตัวไปใช้งาน จนสุดท้ายซัมเมอร์ปี 2009 ก็ถูกปล่อยฟรีไปให้กับ พอร์ตสมัธ ในที่สุด

นัดชิงชนะเลิศ

เวย์น บริดจ์ แบ็คซ้ายดีกรีทีมชาติอังกฤษที่ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ตั้งแต่ปี 2003 แต่สุดท้ายก็ต้องตกเป็นตัวสำรองของ แอชลีย์ โคล จนต้นปี 2009 แมนฯ ซิตี้ยอมจ่ายเงินถึง 11 ล้านปอนด์คว้าตัวมาร่วมทีม

ซึ่งโอกาสลงสนามก็ยังคงไม่ต่อเนื่องจนถูกปล่อยให้หลายทีมยืมตัวไปใช้งานทั้ง เวสต์แฮม ไบรท์ตัน ซันเดอร์แลนด์ จนสุดท้ายก็หมดสัญญาไปในปี 2013 และโยกไปอยู่กับ เร้ดดิ้ง ในที่สุด

แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าเด็กปั้นของแมนฯ ซิตี้ถูก เชลซีมาสอยตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2009 ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ ซึ่งผลงานก็จัดว่าไม่แย่ แต่ด้วยตัวเลือกในแดนหน้าขณะนั้นทำให้โอกาสลงสนามไม่ต่อเนื่องนัก และสุดท้ายก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ช่วงต้นปี 2013 ด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์

วิลลี กาบาเยโร นายทวารชาว อาร์เจนตินา ย้ายจาก มาลาก้า มาอยู่กับแมนฯ ซิตี้เมื่อปี 2014 แต่ก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้จนในปี 2017 หลังจากหมดสัญญา เป็น เชลซี ที่เซ้งต่อมาในฐานะมือสองของทีม และค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ มาจนถึงปี 2021 ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวก็ยังคงเฝ้าเสาให้กับ เซาแธมป์ตัน ในวัย 40 ปีเข้าไปแล้ว

เอฟเอ ประกาศตั้ง เคร็ก พาวสัน เป่าเกม คอมมูนิตี้ชิลด์ 2022

เอฟเอ หรือสมาคมฟุตบอลอังกฤษได้ประกาศแต่งตั้งให้ เคร็ก พาวสัน ทำหน้าที่ผู้ตัดสินในเกมการกุศลก่อนเปิดฤดูกาลหรือ คอมมูนิตี้ชิลด์ 2022 ที่จะเป็นการพบกันระหว่างแชมป์ เอฟคัพ อย่าง ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้แชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ตามธรรมเนียมแล้วเกมการกุศลนี้จะใช้สนาม เวมบลีย์ เป็นสังเวียน แต่ในปีนี้มีการเปลี่ยนมาเล่นที่ คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม รังเหย้าของ เลสเตอร์ ซิตี้ แทน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 100 พอดี สำหรับ พาวสัน นั้นเคยตัดสินนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะในการดวลจุดโทษต่อ เชลซี เมื่อฤดูกาลก่อนมาแล้ว

แชมป์เก่าในรายการนี้ได้แก่ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาได้ 1-0 ในขณะที่การเจอกันของทีม เรือใบสีฟ้า และ หงส์แดง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ถือเป็นการพบกันอีกครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี หลังจากที่ทั้งคู่เคยพบกันมาแล้วเมื่อปี 2019 และเป็นทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโลา ที่เอาชนะไปด้วยการดวลจุดโทษหลังเสมอกันในเวลา 1-1

โรดรี เชื่อ ลิเวอร์พูล-แมนฯ ซิตี้ลุ้นแชมป์จนนัดสุดท้ายเหมือนเดิม โรดรี มิดฟิลด์ตัวรับของแมนเชสเตอร์ ซิตี้เชื่อว่าทีมของเขาและ ลิเวอร์พูล จะยังคงขับเคี่ยวแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันชนิดหายใจรดต้นคออีกครั้งในซีซันใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูลเอ็คโค

หงส์แดง พลาดแชมป์ลีกสูงสุดด้วยการตามหลัง เดอะสกายบลูส์ เพียง 1 คะแนนหลังจบ 38 นัดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ในขณะที่เดียวกันพวกเขาก็สามารถประเดิมฤดูกาลใหม่ด้วยการเป็นแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทางแข้ง ซิตี้เซ้นส์ ยืนยันว่า ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงแข็งแกร่งและจะลุ้นแชมป์กับพวกเขาอย่างสูสีกันอีกครั้ง

“คุณภาพและมาตรฐานของทั้งสองทีมนั้นมันน่าทึ่งมาก ๆ คุณไม่สามารถทำพลาดได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อต้องต่อสู้ลุ้นแชมป์กับพวกเขา และมันจะเป็นแบบนั้นอีกครั้งในซีซันหน้า ผมมั่นใจ”

“พวกเขา (ลิเวอร์พูล) ต้องการแชมป์อย่างมาก พวกเขาคือทีมระดับท็อปและมีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ตำแหน่ง เหมือนกับเรา มันจะเป็นเกมที่เข้มข้นไม่ว่าจะเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม, แอนฟิลด์, เวมบลีย์ หรือที่ไหนก็ตาม ระดับการต่อสู้นั้นมันสูงมาก” โรดรี ระบุ