ตัวหลักของทีม สื่ออังกฤษระบุ สเตอร์ลิ่ง อยู่ในช่วงประเมินอนาคตก่อนเลือกต่อสัญญา หรืออำลาเรือใบสีฟ้า

ตัวหลักของทีม ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ตกเป็นข่าวการได้รับความสนใจจากบาเยิร์น มิวนิค และสโมสรในสเปน หลังจากปีกแมนเชสเตอร์ ซิตี้เหลือสัญญาอีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ปีกวัย 27 ปี เพิ่งช่วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้อีกครั้ง และเป็นสมัยที่ 4 แล้วของตัวเขาเองนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมด้วยในปี 2015 ซึ่งในปีที่ผ่านมาเขายังเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับทีม

โดยมีส่วนร่วมกับเกมทั้งหมด 47 เกม และเป็นตัวจริงไปถึง 32 เกมด้วยกัน อย่างไรก็ตามเรื่องของสัญญาใหม่ยังคงไม่คืบหน้า และตัวเขาก็มีข่าวการอำลาทีมหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมาเช่นกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินหน้าเสริมเกมรุกไปแล้วในปีนี้พวกเขาเซ็นสัญญากับ ยูเลี่ยน อัลวาเรซ และ เออร์ลิ่ง เบร้าส์ ฮาแลนด์ ซึ่งการมาของสองนักเตะใหม่จะส่งผลไม่มากก็น้อยต่อตำแหน่งตัวจริงภายในทีมอย่างแน่นอน

ตามรายงานจากบีบีซี ระบุว่า สเตอร์ลิ่ง กำลังอยู่ในช่วงการประเมินสถานการณ์ของตนเองกับสโมสร ซึ่งเขาต้องการเป็นตัวหลักของทีม เช่นเดียวกับเรื่องของการคว้าความสำเร็จในช่วงที่เหลือของอาชีพการเล่นฟุตบอลเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ

ด้วยสัญญาที่มีอีกเพียงหนึ่งปี ซึ่งนับกันตามจริงเหลือเพียง 6 เดือนเท่านั้นเขาจะสามารถย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวได้แล้วในตลาดการซื้อขายมกราคม 2023 ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และนักเตะต้องยืนยันอนาคตร่วมกันให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจต่อไป โดยมีชื่อของ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรในเยอรมัน และสโมสรจาก ลา ลีกา แสดงความสนใจในตัวของเขาอยู่ด้วย

ทั้งนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีนักเตะตัวรุกริมเส้นถึงสามคนกำลังจะหมดสัญญาในเดือนมิถุนายน2023 ประกอบไปด้วย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ริยาด มาห์เรซ และ กาเบรียล เฆซุส เซาธ์เกต ยืนยันเห็นพัฒนาการของ กรีลิช หลังย้ายไป แมนฯ ซิตี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติ อังกฤษ พูดถึงการพัฒนาด้านแทคติกของ แจ็ค กรีลิช นับตั้งแต่ที่เขาย้ายมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยระบุว่าแข้งสายปาร์ตี้รายนี้ได้เรียนรู้อะไรมากมายที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

เพลย์เมคเกอร์วัย 26 ปี ถูกเรียกตัวติดธงสำหรับการแข่งขัน เนชั่นส์ลีก ในเดือนมิถุนายนนี้กับ ฮังการี, เยอรมนี และอิตาลี ท่ามกลางเสียงทัดทานจากแฟนบอลเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของเขา https://SoccerLiveHD.com

ตัวหลักของทีม

กระนั้น เซาธ์เกต ก็ยังยืนยันว่าการตัดสินใจของเขานั้นถูกต้องแล้ว พร้อมเชื่อว่า กรีลิช จะเล่นโดยปราศจากความกดดันลงอย่างแน่นอนเมื่อสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในชีวิตของตัวเองมาได้

“ชีวิตผมมันแปลกดีนะ ซัมเมอร์ที่แล้วคนพากันตำหนิที่ผมไม่ใช้งานเขา แต่ในตอนนี้ผมกลับมาโดนตำหนิในเรื่องที่ตรงกันข้ามกันเสียแล้ว” เซาธ์เกต กล่าว “ผมเชื่อว่าเขาคงกังวลใจอยู่เหมือนกันในทีแรกว่าหากย้ายทีมไปแล้วจะไม่ได้แชมป์อะไรติดไม้ติดมือเลย แต่ในตอนนี้เขาคงดีขึ้นและสงบใจขึ้นบ้างแล้ว”

“เขาเรียนรู้เรื่องการยืนตำแหน่ง การทำหน้าที่ตัวเองทำแทคติก เกมการเล่นยามไม่มีบอลของเขาพัฒนาขึ้นตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา พูดถึงตอนเล่นที่ แอสตัน วิลลา มันค่อนข้างพิเศษ เขาเป็นคนที่ให้ความหวังกับทีม นำพวกบอลขึ้นหน้าไปเองพร้อมรับอิสระอย่างเต็มที่ในการเล่น”

“กับที่นี่มันต่างกันออกไป ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราต้องการให้เขาทำมาโดยตลอด ผมไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะต้องยิง 20 ประตูหรือแอสซิสต์ให้มากเข้าไว้ เขาอาจจะเป็นตัวป้อนบอลให้เพื่อนไปเล่นกันต่อหรือเป็นคนจ่ายให้คนอื่นไปแอสซิสต์ ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่แตกต่างจากเดิมมากทีเดียวนะ”

โอเวน ชี้ 2 แข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด มีสิทธิ์รุ่งหากย้ายซบ ลิเวอร์พูล-แมนฯ ซิตี้

ไมเคิล โอเวน อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษโดยเชื่อว่าหาก ปอล ป็อกบา และ อังเคล ดิ มาเรีย อดีตผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกย้ายไปเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งคู่สามารถกลายเป็นนักเตะชั้นยอดและประสบความสำเร็จได้

ทีม ปีศาจแดง เสริมทัพด้วยนักเตะชั้นนำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสและปีกอาร์เจนไตน์ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่พวกเขากลับไม่ทำผลงานได้อย่างที่ควรจะเป็น โดย ดิ มาเรีย อยู่กับทีมได้เพียงซีซันเดียวก่อนจะย้ายไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในขณะที่ ป็อกบา ก็กำลังจะย้ายออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว โอเวน เชื่อว่าหากทั้งคู่ได้เล่นกับทีมคู่ปรับอย่าง ลิเวอร์พูล หรือ แมนฯ ซิตี้ พวกเขาอาจมีอนาคตที่ดีกว่านี้

“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับยอดนักเตะอย่าง ดิ มาเรีย หรือ ป็อกบา ไม่มีใครบอกว่ามันจะไม่เวิร์ค ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือนักเตะที่ยอดเยี่ยม และพนันได้เลยว่าถ้าทั้ง 2 คนย้ายไปเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล หรือ แมนฯ ซิตี้ พวกเขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้”

ตัวหลักของทีม

“แต่มันดูเหมือนว่าเมื่อทุกอย่างไปเป็นด้วยดี มันก็จะดีไปหมด ในทีม ลิเวอรืพูล พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม ทุกอย่างราบรื่น แต่ที่ ยูไนเต็ด ดูเหมือนอะไรก็ไม่เป็นใจ และมันยากมากที่คุณจะประสบความสำเร็จได้” โอเวน ระบุ

ดอร์ทมุนด์ ประกาศเซ็นดาวรุ่ง แมนฯ ซิตี้ ตามรอย ซานโช โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประกาศเซ็นสัญญากับ เจย์เดน บราฟ อดีตดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไร้ค่าตัว ด้วยสัญญายาว 3 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อดีตนักเตะเยาวชนของ พีเอสวี ที่มีดีกรีเป็นแข้งทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 18 ปี ย้ายเข้ามาร่วมทีมอคาเดมีของ เรือใบสีฟ้า เมื่อปี 2018 พร้อมทั้งถูกคาดหวังว่าจะเป็นหนึ่งในแข้งอนาคตไกลในมือของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา แต่น่าเสียดายที่ระหว่างย้ายไปเล่นให้กับ อูดิเนเซ แบบยืมตัวเมื่อฤดูกาลก่อนหน้า ทำให้เขาต้องพบกับอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่กินเวลาฟื้นตัวร่วมปี

กระนั้น เซบาสเตียน เคห์ล ผู้อำนวยการคนใหม่ของสโมสรก็ยังคงมอบความไว้ใจให้แก่เด็กหนุ่มวัย 19 ปี อย่างเต็มร้อย พร้อมยืนยันว่าทีมแมวมองของพวกเขาเฝ้าติดตามฝีเท้าของ บราฟ มาหลายปีแล้ว

ย้อนดูเส้นทางที่มีแต่ขาลงของ มาริโอ บาโลเตลลี่ หลังย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ชื่อของ มาริโอ บาโลเตลลี่ แทบจะหายไปเลย หากไม่เพราะคลิปการทำประตูของเขาในเกมล่าสุดกลายเป็นไวรัลในโลกอินเตอร์เน็ตเพราะลีลาและการจบสกอร์ที่เหนือชั้น โดยในเกมดังกล่าวต้นสังกัดของเขา อดานา เดมิสปอร์ เป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะ กอซเทเป้ ไปได้อย่างขาดลอยถึง 7-0 แถมเจ้าตัวยังยิงคนเดียวถึง 5 เม็ดอีกด้วย

มันยากที่จะเชื่อว่าตอนนี้เขามีอายุเพียง 31 ปี เท่านั้น และมันก็ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่อดีตดาวรุ่งชาว อิตาเลียน คนนี้ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมฝากความยียวนเอาไว้นับครั้งไม่ถ้วน เช่นเดียวกับประตูสำคัญๆและการเป็นผู้แอสซิสต์ให้กับ กุน อเกวโร ในประตูที่ทำให้อดีดต้นสังกัดหักหน้า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองเป็นสมัยแรกได้อย่างเหนือความคาดหมาย

ทุกอย่างบ่งชี้ว่าเขามีดีพอที่จะเทียบชั้นแข้งระดับอ๋องอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่เป็นเช่นนั้น – แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา?