รอบชิงชนะเลิศ โคนาเต้ เผยความฝันวัยเด็กหลังกลับบ้านเกิดเล่นนัดชิง ยูซีแอล
รอบชิงชนะเลิศ อิบราฮิม โคนาเต้ เซ็นเตอร์แบ็คของ ลิเวอร์พูล เปิดเผยถึงความฝันในวัยเด็กของตนหลังจากที่ได้กลับมายังกรุงปารีสบ้านเกิดอีกครั้ง เพื่อเตรียมตัวทำศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด ในวันเสาร์นี้ ตามรายงานจากเว็บไซต์ นี่คือแอนฟิลด์
ดาวเตะวัย 23 ปีเกิดที่เมืองหลวงของฝรั่งเศสและเริ่มการเป็นนักเตะเยาวชนกับสโมสร โซโชซ์ ก่อนที่จะอำลาทีมเมื่อตอนอายุ 14 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จด้วยการได้เล่นให้กับ อาร์เบ ไลป์ซิก ใน บุนเดสลีกา และปัจจุบันอยู่ในทีม หงส์แดง ชุดที่จะลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก ในวันเสาร์
ในโอกาสที่ โคนาเต้ ได้กลับมาที่กรุงปารีสอีกครั้ง เขาได้กล่าวถึงความรู้สึกและเล่าถึงความฝันในวัยเด็กว่า “ความฝันของในเวลานั้นมันง่ายมาก นั่นคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ”
“แน่นอนเมื่อผมอายุ 14 ผมไม่ได้มีความคิดว่าจะไปค้าแข้งกับสโมสรระดับท็อปหรอก ถ้ามีใครถามผมว่า ‘คุณคิดว่าจะได้เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ตอนอายุเท่าไหร่’ ผมคงตอบไปว่าประมาณ 27-28 ปีมั้ง” https://SoccerLiveHD.com
“ตอนนั้นความฝันอย่างเดียวของผมก้คือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผมไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ ถ้าถามว่าความฝันหรือเป้าหมายในตอนนี้ล่ะ ผมคิดว่าการได้เป็นกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก และเป็นแชมปืทุกรายการที่ลงเล่น”
คาริม เบนเซมา วีเอส โมฮาเหม็ด ซาลาห์: เทียบปอนด์ต่อปอนด์ใครคือนักเตะที่ยอดเยี่ยมกว่ากัน คาริม เบนเซมา กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 2 ดาวเตะระดับท็อปของวงการฟุตบอลในเวลานี้ผู้ตะบันประตูมากกว่า 30 ลูก
ต่อฤดูกาล ทั้งคู่ต่างพกเกียรติยศยาวเป็นหางว่าวกับสโมสรต้นสังกัด รวมทั้งเคยมีศักดิ์ศรีคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้วด้วยกันทั้งคู่
แต่คำถามก็คือใครคือแข้งที่ยอดเยี่ยมกว่ากัน ก่อนที่จะเริ่มต้นการเปรียบเทียบในหัวข้อนี้ เราขอแจกแจงรายละเอียดไว้ดังนี้ ทั้ง เบนเซมา และ ซาลาห์ ต่างทำประตูมากกว่า 30 ลูกต่อฤดูกาลเมื่อรวมการแข่งขันทุกรายการในซีซันนี้ นั่นทำให้พวกเขาไร้เทียมทานที่หน้าปากประตูของคู่แข่งชัดเจน
แต่เหตุผลที่ทำให้ เบนเซมา เฉือนเข้าป้ายในหัวข้อนี้ได้แก่
1. เขายิงประตูได้มากกว่า ซาลาห์ 13 ลูกในซีซัน 2021/22
2. เบนเซมา ทำประตูได้เด็ดขาดและหลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นลูกยิงใส่ เปแอสเช, ประตูจากลูกโหม่งใส่ เชลซี และ ลูกวอลเลย์ใส่ แอตเลติโก มาดริด เป็นต้น หัวข้อนี้อาจถูกสร้างมาเพื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยเฉพาะ
สตาร์ทีมชาติ อียิปต์ เป็นหนึ่งในดาวเตะที่ไปกับบอลได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในยุคปัจจุบัน ความคล่องแคล่วว่องไวของเจ้าตัวเป็นอาวุธสำคัญของ ลิเวอร์พูล มาหลายฤดูกาลติดต่อกัน
ประตูของ ซาลาห์ ที่ได้รางวัล ปุสกัส อวอร์ดส์ 2018 ด้านบนเป็นตัวอย่างชั้นยอดที่แสดงให้เห็นถึงทักษะการเลี้ยงบอลของเจ้าตัว แม้ว่า ซาลาห์ จะออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้อย่างร้อนแรงในฟอร์มการเล่น แต่เจ้าตัวแรงตกในช่วงท้ายของซีซัน ขณะที่ เบนเซมา มีผลงานที่คงเส้นคงวาตลอดฤดูกาล โดยเฉพาะสถิติการตะบัน 15 ประตูใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้เป็นอีกข้อพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมของกองหน้าทีมชาติ ฝรั่งเศส รายนี้
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในฐานะแข้งที่โดดเด่นในบทบาทตัวรุกที่ริมเส้นเข้าป้ายเฉือน คาริม เบนเซมา ในหัวข้อนี้ แม้ว่ากองหน้าจาก เรอัล มาดริด จะมีสปีดที่รวดเร็วไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่เราคิดว่า ซาลาห์ เข้าวินสามารถแซง เบนเซมา ได้ชนิดตัดสินกันที่ปลายจมูก
โคนาเต้ เปิดใจถึงการพา ลิเวอร์พูล เข้าชิงฯ ยูซีแอล กับ มาดริด คืนวันเสาร์นี้
“อิบราฮิมา โคนาเต้ กองหลังดาวโรจน์ของ ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟา แชมเปียนส์ลีก กับ เรอัล มาดริด จะเปิดฉากขึ้นในคืนวันเสาร์นี้
“สารภาพตามตรง ผมหยุดมองรูปถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ไม่ได้เลยจริง ๆ เรียกว่าถ้ามีเวลาว่างก็จะเปิดขึ้นมานั่งมองตลอดเวลา แน่นอนว่ามันเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และนี่ก็เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสุดในชีวิตอย่างแท้จริง” โคนาเต้ กล่าวกับ ลิเวอร์พูล เอคโค่
“ด้วยความที่ผมยังอายุน้อยมาก จึงยังไม่เคยผ่านช่วงเวลาของการมีลูก บางทีหากถึงวันนั้นสิ่งที่ดีสุดในชีวิตอาจเปลี่ยนไป (หัวเราะ) แต่ถ้าเอาแค่ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีอะไรเจ๋งและน่าจดจำไปมากกว่านี้แล้วล่ะ”
“สมัยเด็ก ๆ ความฝันของผมมันค่อนข้างเรียบง่าย เพราะขอแค่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพก็ถือว่าเจ๋งสุดแล้ว ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย ยิ่งตอนอายุ 14 ที่เริ่มเป็นเด็กฝึกของสโมสรระดับอาชีพก็ไม่เคยวาดฝันเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องได้เล่นทีมใหญ่”
“ถ้าสมัยนั้นมีคนไปถามว่า ตัวเองจะได้เซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล เมื่อไหร่ ? ผมคงจินตนาการไม่ออก หรือไม่ก็ตอบไปว่าอย่างเร็วที่สุดคือตอนอายุ 28-29 โน่นเลย” “แต่ด้วยความที่ผมได้รับโอกาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เร็วกว่าดาวรุ่งคนอื่น ๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้กับ ลิเวอร์พูล
ได้ก็ถือเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างยาวนานเช่นกัน สำคัญคือผมเป็นคนหนึ่งที่เคยดูเกมใหญ่ ๆ ในสนามสต๊าด เดอ ฟรองก์ มาเยอะตอนยังเด็ก และวันนี้มีโอกาสได้ลงเล่นนัดชิงฯ ยูซีแอล ด้วยตัวเอง นั่นถือเป็นชีวิตที่มหัศจรรย์สุด ๆ เลยล่ะ”
เนวิลล์ วิเคราะห์ จุดอ่อนสำคัญที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล พ่าย มาดริด ในนัดชิง ยูซีแอล แกรี เนวิลล์ ตำนานแบ็คขวาปีศาจแดง ออกโรงวิเคราะห์อย่างใจเย็นว่า ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันมีจุดอ่อนสำคัญอยู่ และจะทำให้ เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้ในเกมนัดชิงฯ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก คืนวันเสาร์นี้
“บอกตรง ๆ ผมคิดหนักมากว่าจะพูดอะไร จะวิเคราะห์ยังไง ตัดสินว่าใครควรเป็นผู้ชนะสำหรับเกมนัดชิงฯ ยูซีแอล คืนวันเสาร์นี้ เพราะคุณรู้อยู่แล้วนี่ว่าผมอยากเห็น มาดริด คว้าแชมป์มากกว่า แต่มันต้องหาเหตุผลมาประกอบให้สมเหตุสมผลในฐานะผู้วิเคราะห์เกมด้วย”
“ผมนึกย้อนกลับไปในปี 1999 ตอนที่เราพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าแชมป์เหนือ บาเยิร์น มิวนิค ได้แบบโลกถล่มก็เพราะคุณภาพของผู้เล่นมิดฟิลด์ทั้งแผงอย่าง รอย คีน, นิกกี้ บัตต์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม ทุกคนระเบิดฟอร์มสุดยอดระดับปรากฏการณ์ออกมาได้ในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยตลอดทั้งชีวิต”
“แน่นอนว่า มาดริด ชุดนี้ก็มีผู้เล่นตัวท็อปของโลกอย่าง โทนี โครส, กาเซมิโร, ลูก้า โมดริช, บัลเบร์เด้, กามาวินก้า คอยขับเคลื่อนเกมแดนกลางให้อย่างแข็งแกร่งอยู่” “ขณะที่ผมยังยืนยันคำเดิมกับที่เคยพูดเอาไว้เมื่อ 2-3 เดือนก่อนว่า แผงมิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล คือจุดอ่อนของทีมชุดปัจจุบัน ซึ่งทาง คาร์โล อันเชล็อตติ ย่อมมองออกอยู่แล้ว และจะใช้คุณภาพที่เหนือกว่าตรงจุดนี้เพื่อชิงความได้เปรียบจนคว้าแชมป์ไปครองในท้ายที่สุด”
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ : “เกมนัดชิงฯ ยูซีแอล คือการแก้แค้นแบบส่วนตัวของผม”
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กลางรุกวันเดอร์คิดของ ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่าตนมองเกมนัดชิงฯ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก กับ เรอัล มาดริด เป็นการแก้แค้นแบบส่วนตัวในฐานะแฟนบอลระดับเดนตายคนหนึ่งซึ่งเคยผิดหวังมาจากปี 2018 นั่นเอง
“แน่นอนว่าเกมนัดชิงฯ ยูซีแอล วันพรุ่งนี้มันเป็นการแก้แค้นแบบส่วนตัวของผม แต่ไม่ใช่ในฐานะนักเตะ ลิเวอร์พูล เพราะมันคือความแค้นในฐานะ เดอะ ค็อป” เจ้าจุก “ย้อนกลับไปตอนอายุ 15 ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าดูเกมนัดชิงฯ ยูซีแอล ที่ ลิเวอร์พูล แพ้ มาดริด ไปแบบเจ็บปวดเมื่อปี 2018 ฉะนั้นผมเองก็เป็นสาวกหงส์แดงคนหนึ่งที่อยากยัดเยียดความผิดหวังแบบนั้นให้ฝ่ายตรงข้ามบ้าง มันจึงเป็นเกมที่มีความพิเศษสุด ๆ เลยล่ะ”
“ผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ลงสนามหรือเปล่า แต่มันจะต้องเป็นประสบการณ์ที่บ้าคลั่งสุด ๆ แน่นอน คุณนึกออกใช่ไหม ? เมื่อไม่กี่ปีก่อนเด็กคนหนึ่งยังเป็นแฟนบอลที่ส่งเสียงเชียร์เย้ว ๆ อยู่บนอัฒจันทร์ แต่วันนี้กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่สวมชุดทีมลงสนามแล้วน่ะ”
“ความรู้สึกของการเป็น เดอะ ค็อป ที่เดินทางไปเชียร์ทีมรักไกลถึงเคียฟและผ่านช่วงเวลาเจ็บปวดมาด้วยกันมันยังติดตรึงอยู่ในหัวใจผมตลอดเวลา แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อกว่านั้นคือ ผมได้กลายมาเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล จริง ๆ นี่แหละ”