ดาวซัลโว ริชาร์ลิสัน เผย ไม่เชียร์ ฟาบินโญ-อลิสสัน ในนัดชิง ยูซีแอล แม้เป็นเพื่อนร่วมทีมชาติ

ดาวซัลโว ริชาร์ลิสัน กองหน้าจาก เอฟเวอร์ตัน เปิดเผยว่าเกมนัดชิงฯ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ตนไม่สามารถทำใจเชียร์ ฟาบินโญ & อลิสสัน เบคเกอร์ จาก ลิเวอร์พูล ให้ชนะได้เลยแม้จะเป็นเพื่อนกันในทีมชาติบราซิลก็ตาม

“ด้วยความสัตย์จริง เกมนัดชิงฯ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ผมเชียร์ เรอัล มาดริด เพราะความสัมพันธ์อันดีกับกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งเขาเคยคุม เอฟเวอร์ตัน มาก่อน” ดาวยิงฝีปากกล้า กล่าวกับ ลิเวอร์พูล เอคโค่

“แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เราสองคนทำงานร่วมกันได้ราบรื่นมาก ๆ เขาช่วยให้ผมพัฒนาฝีเท้าขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า สั่งสอนสิ่งดี ๆ ให้มากมาย ซึ่งผมส่งข้อความไปหา อันเชล็อตติ ก่อนเกมนัดชิงฯ ดาวซัลโว จะเริ่มขึ้นว่า ขอให้พวกคุณ (เรอัล มาดริด) โชคดี” https://SoccerLiveHD.com

ดาวซัลโว

“ขณะเดียวกัน ฟาบินโญ กับ อลิสสัน เบคเกอร์ รวมถึงโค้ชผู้รักษาประตูอย่าง เคลาดิโอ ทัฟฟาเรล เองก็อยู่ในทีม ลิเวอร์พูล ซึ่งต้องลงแข่งกับ มาดริด ของ อันเชล็อตติ ด้วย แต่ด้วยความที่มันเป็นเกมระดับสโมสร ผมจึงไม่จำเป็นต้องเชียร์พวกเขา”

“อย่าลืมสิว่า เอฟเวอร์ตัน & ลิเวอร์พูล คือคู่อริร่วมเมืองที่ไม่มีวันญาติดีกันได้เด็ดขาด แต่หลังจากฤดูกาลปกติมันจบลงไปแล้ว นี่คือช่วงเวลาของทีมชาติ เราอยู่ในทัพเซเลเซาเหมือนกัน เราคือพวกเดียวกัน”

“ความจริงทุกคนก็เป็นเพื่อนกันหมดนั่นแหละ ฉะนั้นจึงพูดคุยกัน ใช้ชีวิตร่วมกันในแคมป์ได้อย่างไร้ปัญหาแน่นอน” เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ แซะ ร็อบโบ้ ควันหลงเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงฯ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ดาวเตะ เรอัล มาดริด ให้สัมภาษณ์พาดพิงถึง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายสังกัด สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล หลังเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโดยแชมป์ตกเป็นของทัพ ราชันชุดขาว จากประตูชัยของ วินิซิอุส จูเนียร์

บัลเบร์เด้ ดวลกับ ร็อบโบ้ โดยตรงตามตำแหน่งในแมตช์ดังกล่าวที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส และเป็นดาวเตะชาว อาร์เจนตินา ที่เป็นคนขึ้นบอลในพื้นที่ซึ่ง โรเบิร์ตสัน รับผิดชอบก่อนทำแอสซิสต์ ดาวซัลโว ผ่านบอลให้ วินิซิอุส ทำประตูในท้ายที่สุด

“ให้ผมเลี้ยงลูกมันยังง่ายกว่าการที่จะต้องประกบ โรเบิร์ตสัน เสียอีก” บัลเบร์เด้ กล่าวหลังจบเกมกับผู้สื่อข่าว “ผมแค่พาบอลเข้าใกล้กรอบเขตโทษให้มากที่สุด จากนั้นกึ่งผ่านเข้าไปในเขตโทษ มันลงเอยด้วยการกลายเป็นลูกจ่ายที่ยอดเยี่ยม และ วินิซิอุส ยิ่งทำให้มันสวยงามกว่าเดิม”

เบนเซมา แข้งยอดเยี่ยม-8 แข้ง เรอัล และ ลิเวอร์พูล ติดทีมแห่งซีซัน: สรุปรางวัลยอดเยี่ยม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2021/22

คาริม เบนเซมา หัวหอกสังกัด เรอัล มาดริด คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลในทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สำหรับซีซัน 2021/22 เจ้าตัวยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมร่วมกับอีก 3 แข้ง ราชันชุดขาว ขณะที่ 4 ดาวเตะจาก ลิเวอร์พูล มีชื่ออยู่ในทีมแห่งซีซันเช่นเดียวกัน

พลพรรค โลสบลังโกส จบซีซันด้วยการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนีเมื่อเบียดเอาชนะ หงส์แดง 1-0 ในเกมนัดชิงชนะเลิศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจากประตูโทนของ วินิซิอุส จูเนียร์ นับเป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ของ ยุโรป สมัยที่ 14 ของพวกเขา

สรุปผลรางวัลยอดเยี่ยม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แห่งฤดูกาล 2021/22

นักเตะยอดเยี่ยม – คาริม เบนเซมา (เรอัล มาดริด)
ดาวรุ่งยอดเยี่ยม – วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด)
ทีมยอดเยี่ยม – กูร์ตัวส์; อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รูดิเกอร์, ฟาน ไดค์,​ โรเบิร์ตสัน; เดอ บรอยน์, ฟาบินโญ, โมดริช; เอ็มบัปเป้, เบนเซมา, วินิซิอุส

เปิดทำเนียบดาวซัลโว 5 ลีกใหญ่พร้อม 3 ถ้วยฟุตบอลยุโรปฤดูกาล 2021/22 จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ 5 ลีกใหญ่ในยุโรปรวมถึงฟุตบอลถ้วย 3 รายการทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยูฟ่า ยูโรปาลีก ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก โดยเราได้ทำการรวบรวมตำแหน่งดาวซัลโวของทุกรายการที่กล่าวไปข้างต้นมาให้แฟน  ได้รับชมกัน โดยจะมีใครกันบ้างไปดูกันเลย…

ดาวซัลโว

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก – แชมป์ เรอัล มาดริด
ดาวซัลโวสูงสุด
1. คาริม เบนเซมา – เรอัล มาดริด 15 ประตู 2 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 12 นัด
2. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ – บาเยิร์น มิวนิค 13 ประตู 3 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 10 นัด
3. เซบาสเตียน อัลแลร์ – อาแจ็กซ์ 11 ประตู 3 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 8 นัด
4. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – ลิเวอร์พูล 8 ประตู 2 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 13 นัด
5. คริสตอฟ เอ็นคุนคู – แอร์เบ ไลป์ซิก 7 ประตู 2 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 6 นัด
ยูฟ่า ยูโรปาลีก – แชมป์ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต
ดาวซัลโวสูงสุด
1. เจมส์ ทาวาเนียร์ – เรนเจอร์ส 7 ประตู 2 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 14 นัด
2. คาร์ล เอคัมบี – โอลิมปิก ลียง 6 ประตู 2 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 10 นัด
3. กาเลโน – เอฟซี ปอร์โต้ 6 ประตู 0 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 10 นัด
4. ไดอิจิ คามาดะ – ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 5 ประตู 1 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 13 นัด
5. แพตสัน ดาก้า – เลสเตอร์ ซิตี้ 5 ประตู 0 แอสซิตส์ จากการลงเล่น 6 นัด

เรอัล มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล: ประเด็นหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ราชันชุดขาว เข้าวินสมัยที่ 14

รูปเกมที่เป็นไปตามคาด ตลอด 90 นาทีในเกมวันนี้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ตามฟอร์มซึ่งก็เป็นไปตามที่หลาย ๆ คนคาดไว้ ส่วน เรอัล มาดริด แน่นอนว่าพวกเขายังคงยึดมั่นในแทคติคเดิมที่ใช้มาตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เมื่อต้องเจอทีมคู่แข่งที่มีเกมรุกดุดันและแข็งแกร่งนั่นคือการเน้นแพ็คแนวหลังและอาศัยความเฉียบขาดของแนวรุกในการเล่นเกมสวนกลับ โดยตลอดทั้งเกม หงส์แดง สร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากถึง 22 ครั้ง ในขณะที่ ราชันชุดขาว ยิงไปเพียง 3 ครั้งเท่านั้น แต่พวกเขาก็อาศัยความเฉียบขาดเปลี่ยนโอกาสอันน้อยนิดให้เป็นประตูชัยและคว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 14 ได้ในที่สุด

ราชัน เกือบนำตั้งแต่ครึ่งแรก เกมนี้มีประเด็นให้ได้พูดถึงกันเล็กน้อยในช่วงท้ายครึ่งแรก ที่มีจังหวะ เบนเซมา ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปได้แต่ถูกจับเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ซึ่งก็มาการถกเถียงกันต่าง ๆ นา ๆ เพราะก่อนที่บอลจะมาถึง เบนเซมา นั้น เฟเดริโก้ บัลบาเด้ เตะไปติดบล็อค ฟาบินโญ ทำให้เขาสัมผัสบอลเป็นคนสุดท้าย ซึ่งถ้าเป็นกฏเดิมลูกนี้จะไม่ล้ำหน้าทันทีแม้ว่า ดาวซัลโว เบนเซมา จะยืนเหลื่อมอยู่ก็ตาม

แต่สำหรับกติกาใหม่ผู้ตัดสินจะประเมินจากเจตนาของ ฟาบินโญ ว่าการสะกัดบอลกระดอนออกไปนั้นเป็นการ “เจตนาสะกัด” เหมือนกับเวลาที่ยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตูหรือไม่ ถ้าเป็นการ “เจตนาสะกัด” ก็จะถือว่า เบนเซมา ยังคงรับบอลจาก บัลบาเด้ และกลายเป็นลูกล้ำหน้าไป